แบตสำรองนั้นถือเป็นอุปกรณ์ที่เริ่มจะมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ เพราะปัจจุบันนั้นมีการใช้งานสมาร์ทโฟนที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งเอาไว้ทำงาน เอาไว้ถ่ายรูป แชทหรือเล่นเกมต่าง ๆ ทำให้แบตหมดไวกว่าที่ควรจะเป็น หรืออย่างการเดินทางไปเที่ยวไกล ๆ อาจจะใช้สมาร์ทโฟนถ่ายรูปอยู่ตลอดเวลาทำให้แบตหมดไวนั่นเองค่ะ ดังนั้นจึงต้องมีแบตสำรองหรือที่เรียกว่า power bank เตรียมไว้ด้วยเสมอ ดังนั้นมาดูวิธีการเลือกแบตสำรองกันค่ะ
1. เลือกตามความจุแบตสมาร์ทโฟน
ก่อนที่จะเลือกซื้อแบตสำรองคุณควรที่จะรู้ก่อนว่า สมาร์ทโฟนที่คุณใช้อยู่นั้นมีความจุแบตเตอรี่เท่าไหร่ ดูได้จากหลังเครื่องค่ะ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีความจุต่างกันดังนี้ค่ะ จะขอยกตัวอย่างสัก 2 แบรนด์ใหญ่ๆ นะคะ
Iphone5 ความจุแบต 1570 mah
Iphone4S ความจุแบต 1430 mah
Ipad ความจุแบต 11560 mah
Ipad mini ความจุแบต 4490 mah
Samsung Galaxy s4 ความจุแบต 2600 mah
Samsung Galaxy Note3 ความจุแบต 3200 mah
รุ่นอื่น ๆ ก็ต่างกันไม่มากค่ะไม่เกิน 500 mah ค่ะ
2. รู้จักแบตสำรอง
เมื่อรู้จักความจุแบตของสมาร์ทโฟนที่คุณใช้แล้ว ก็มาดูแบตสำรองกันบ้างค่ะ แบตเตอรี่ที่นิยมนำมาใช้ทำแบตสำรองจะมีด้วยกันสองประเภท นั่นคือแบบ ลิเทียมโพลิเมอร์ จะเป็นลักษณะคล้ายแบตมือถือ และแบตเตอรี่แบบ ลิเธียมไอออนจะมีลักษณะคล้ายถ่ายไฟฉายขนาด 4A ค่ะ ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมการใช้งานค่ะ
3. เลือกแบตสำรองที่มากกว่าความจุของแบตสมาร์ทโฟน
ลองคำนวณดูง่าย ๆ ค่ะเพราะจากที่คุณได้รู้แล้วว่าแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนของคุณมีความจุเท่าไหร่ ก็ คูณ 2 หรือ 3 เข้าไปเพิ่ม เช่นแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนคุณมีความจุ 2600 mah และหากคุณใช้งานสมาร์ทโฟนหนักมากจนแบตหมดไวและต้องการชาร์ตบ่อย ๆ ควรจะเลือกแบตสำรองที่มีความจุ 9000 mah ซึ่งทั้งนี้ต้องดูการใช้งานด้วยค่ะ